มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 รายได้จากการขายสินค้าผ่าน eCommerce จะเติบโตไปถึง 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรายได้หลัก ๆ ก็มาจากการขายผ่าน online marketplace ด้วยเหตุนีพ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คนจึงหันมาให้ความสนใจ และ วางกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อที่จะขยายธุรกิจของตนผ่าน online marketplace มากขึ้น ซึ่งการขนส่งสินค้าก็คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ต้องวางแผน

โดยใยบทความนี้จะมาแชร์วิธีการส่งสินค้าที่ขายผ่าน marketplace รวมถึงกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง ประกอบด้วย
- การส่งสินค้าบน marketplace มีความสำคัญอย่างไร
- การส่งสินค้าบน marketplace ทำอย่างไร
- Best Practice ของการส่งสินค้าบน marketplace
- ส่งสินค้าบน Marketplace กับ Fulfillment by SCG Logistics
01 การส่งสินค้าบน marketplace มีความสำคัญอย่างไร
การขนส่งสินค้าบนมาเกตเพลสถือเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจออนไลน์ เพราะเป็นวิธีการเดียวที่ลูกค้าจะได้รับสินค้า ซึ่งลูกค้ามักจะคาดหวังที่จะได้รับสินค้าตรงเวลา online marketplace ก็ต้องปรับตัว ประยุกต์เอาเทคโนโลยีด้านการขนส่งสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้สาเหตุหลักที่ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ Cart Abandonment ก็คือการขาดกลยุทธ์และการจัดการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า เมื่อเจาะลึกลงไปถึงสาเหตุ 68% ของการยกเลิกออเดอร์เป็นเพราะราคาค่าขนส่งที่สูงเกินไป ซึ่งในทางกลับกัน การส่งฟรีก็เป็นตัวช่วยสร้างยอดขายได้ดีมาก
02 การส่งสินค้าบน marketplace ทำงานอย่างไร
การส่งสินค้าออนไลน์ไม่ใช่งานที่ยากถ้ามีการวางแผนที่ดี แต่ถ้าไม่มีการวางแผน ไร้มาตรฐานก็จะส่งผลต่อร้านค้าอย่างมาก ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับร้านของตัวเองได้
Step 1: การประมวลผลคำสั่งซื้อ
ในการสั่งซื้อสินค้ามักมีหมายเลขติดตามสถานะติดอยู่กับการสั่งซื้อทุกครั้งเพื่อการจัดส่ง เมื่อคำสั่งซื้อของลูกค้าได้รับการประมวลผล จะเรียกว่าขั้นตอนการประมวลผลคำสั่งซื้อ การประมวลผลคำสั่งซื้อจะช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลที่จำเป็น และด้วยระบบซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน คุณสามารถแจ้งลูกค้าถึงสถานะของสินค้าได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ยังเกี่ยวข้องกับการอัปเดตสินค้าคงคลังและการปิดใบสั่งซื้อ หลังจากนั้น มอบหมายงานให้กับทีมที่รับผิดชอบการส่งสินค้าต่อไป
Step 2: การแพ็คสินค้า
เมื่อพูดถึงการสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ 2 สิ่งสำคัญ ที่จะทำให้สินค้าของคุณปลอดภัยคือ 1) การให้ความสำคัญกับวัสดุของบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สินค้าส่งถึงมือลูกค้าในสภาพดี และ 2) คือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
สินค้าแต่ละชนิดต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ต่างกัน บางอย่างเปราะบางแตกง่าย บางอย่างเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็จำเป็นต้องจัดการอย่างระมัดระวังมากกว่าปกติ และอย่าลืมคำนึงถึงขนาดและน้ำหนักด้วย เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าขนส่งโดยตรง ซึ่งถ้าเกิดค่าส่งแพง ทำให้คุณรับต้นทุนไม่ไหว แล้วไปเรียกเก็บจากลูกค้า ก็จะส่งผลเสียต่อธุรกิจได้
Step 3: การขนส่งสินค้า
แน่นอนว่าการขายของออนไลน์ต้องพึ่งพาบริษัทโลจิสติกส์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน สามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนด การเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทโลจิสติกส์ หรือ 3PLs (third-party logistics) จะช่วยให้คุณจัดการกระบวนการขนส่งได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญต้นทุนลดลงด้วย
3PLs จัดการสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะในสมัยนี้มีบริษัทขนส่งมากมาย ซอฟท์แวร์ของ 3PLs จะประมวลผลเลือกบริษัทขนส่งที่เหมาะสมที่สุดกับออเดอร์นั้น ๆ ให้คุณ และอัพเดตสถานะแบบ real-time ทั้งคุณและลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าอยู่ที่ไหน
Step 4: การคืนสินค้า
การคืนยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไมได้ในการทำ Ecommerce ลูกค้าอาจคืนสินค้าได้ถึงแม้ว่าเราจะส่งไปถึงปลายทางแล้วก็ตาม ดังนั้นคำแนะนำสำหรับการทำ Ecommerce คือการมีนโยบายการคืนสินค้าที่ชัดเจน มีกระบวนการคืนสินค้าที่ไม่ซับซ้อน และ สื่อสารกับลูกค้าให้ทราบ สามารถส่งผลดีต่อธุรกิจได้
03 Best Practices ของการส่งสินค้าบน marketplace
สิ่งที่ควรท่องให้ขึ้นใจ เมื่อขายของ online marketplace และการส่งสินค้า คือ
การตั้งเป้าที่บรรลุได้
การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญในการเดินไปข้างหน้าแต่ละก้าว การขนส่งก็เช่นกันต้องกำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงและบรรลุได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการจัดส่งของคุณ แนวทางปฏิบัตินี้จะทำให้คุณต้องสนใจในหลายๆ ด้านของธุรกิจ เช่น การขยายธุรกิจเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ค้นคว้าบริการจัดส่งทางเลือก และ หาวิธีเพิ่ม Conversion ของธุรกิจ
การเสนอตัวเลือกในการส่งสินค้าให้กับลูกค้า
การมีตัวเลือกในการขนส่งช่วยให้การขายสินค้าบน marketplace บรรลุเป้าหมายได้ เช่น Live Rates, Same-day delivery, next-day delivery หรือ Free Shipping เป็นต้น
การรวมทีมผู้เชี่ยวชาญ
เพราะการขายของบน online marketplace ไม่ได้มีแค่งานขายเท่านั้น คุณต้องมีผู้เชี่ยวชาญในงานจากหลาย ๆ ส่วน เพื่อให้ธุรกิจราบรื่น เช่น นักการตลาด นักวิเคราะห์ นักขาย หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่ง และ Fulfillment นักการตลาดช่วยออกแบบร้านค้าใน marketplace และทำให้สินค้าแสดงให้ลูกค้าเป้าหมายเห็น นักวิเคราะห์ช่วยวิเคราะห์เทรนด์ของสินค้าอะไรขายดีอะไรขายไม่ดี ควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร นักขายช่วยคุยและปิดการขาย และนักโลจิสติกส์ช่วยออกแบบกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บสินค้า แพ็คสินค้า และ ส่งสินค้าไปยังลูกค้า
ใช้แพลตฟอร์มการจัดส่งให้คุ้มค่า
แพลตฟอร์มการจัดส่งสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีประโยชน์มาก ตั้งแต่ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดส่งไปจนถึงการพึ่งพาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณสะดวกสบายขึ้น รวมถึงช่วยคำนวนต้นทุนการขนส่ง ติดตามสถานะ และ จัดการการคืนสินค้า เพื่อรักษาความพึงพอใจของลูกค้า
04 ส่งสินค้าบน Marketplace กับ Fulfillment by SCG Logistics
ออนไลน์มาเกตเพลสได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่แบรนด์ที่มีหน้าร้านอยู่แล้วก็ปรับตัวเองมาขายผ่านออนไลน์มาเกตเพลสด้วยเช่นกัน ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น คุณต้องวางแผนกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ และ conversion ของธุรกิจให้ดี
ซึ่งการขนส่งสินค้าที่ดีคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ พาร์ทเนอร์กับ Fulfillment by SCG Logistics คุณสามารถเข้าถึงระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี และ กระบวนการทำงานที่ตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็น
- Dashboard แบบ Real-time ของร้านค้า Performance ต่าง ๆ จะถูกแสดงผลให้เข้าใจง่ายตั้งแต่กระบวนการขาย จนถึงกระบวนการขนส่ง
- Analytics ที่เราเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งในส่วนของข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้า และข้อมูลคำสั่งซื้อ
- การเชื่อมต่อระบบกับออนไลน์มาเกตเพลส หรือ API ที่จะส่งข้อมูลคำสั่งซื้อของลูกค้าโดยอัตโนมัติ ช่วยให้การจัดการคำสั่งซื้อรวดเร็วขึ้น
- การแพ็คสินค้า customize เพื่อตอบโจทย์เอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity)
- ผู้ให้บริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ สามารถเลือกผู้ให้บริการที่ต้องการ หรือ ตามที่ระบบแนะนำก็ได้
พร้อมจะขยายธุรกิจ Ecommerce คลิก ! หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ LINE@SCGL
อ้างอิงบทความและรูปภาพจาก : freepik.com, easyship.com