
ธุรกิจ e-Commerce ที่มีผลประกอบการดีมักจะมีค่า Inventory Days on Hand (DOH) ต่ำ เพราะหมายถึงใช้เวลาช่วงสั้นๆ ในการขายสินค้านั้น หากมีค่า DOH สูง ธุรกิจจะต้องวางแผนว่าจะบริหารคลังสินค้าและใช้กลยุทธ์ในการขายต่อไปอย่างไร เพราะการบริหารคลังสินค้าที่แม่นยำจะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ทันทีโดยไม่ต้องผิดหวังจากการได้รับคำตอบว่าสินค้าหมดและต้องรอแจ้งเตือน “Back in Stock”
บทสรุป Inventory Days on Hand มีความสำคัญสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจ e-Commerce

Inventory Days on Hand คืออะไร
มีการเรียก Inventory Days on Hand (DOH) อีกหลากหลายชื่อ เช่น Inventory Day, Day of Supply หรือ Cover Day แต่ทั้งหมดมีความหมายเดียวกัน นั่นคือการวัดสภาพคล่องของสินค้าคงคลัง หาคำตอบว่าธุรกิจสามารถขายสินค้าได้เร็วแค่ไหนและมีสินค้าสำหรับขายไปอีกกี่วัน
โดยทั่วไปสินค้าคงคลังเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจ DOH จึงเป็นการวัดผลที่สำคัญเพื่อทำให้ทราบว่าว่าเงินลงทุนจะติดอยู่กับสินค้าเหล่านั้นอีกนานแค่ไหน และควรใช้กลยุทธ์ใดเพื่อลดเวลาดังกล่าว เพราะยิ่งธุรกิจขายสินค้าที่มีได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนเร็วขึ้นเท่านั้น บ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรสูง หากมีการบริหารคลังสินค้าที่ดี จะคาดการณ์ความต้องการสินค้าของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและกำหนดจุดที่ต้องสั่งซื้อสินค้าสต็อกเพิ่ม เพื่อให้สินค้าคงคลังเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นตลอดกระบวนการซื้อขาย
วิธีคำนวณ Inventory Days on Hand (DOH)
สามารถคำนวณ DOH เพื่อบริหารคลังสินค้าได้ดังนี้ :
(สินค้าคงเหลือเฉลี่ย / ต้นทุนขายหรือ COGS) x จำนวนวันในรอบระยะเวลาที่กำหนด
- หาค่าสินค้าคงเหลือเฉลี่ยโดยใช้สูตร : (สินค้าคงเหลือต้นงวด + สินค้าคงเหลือปลายงวด) / 2
- หาต้นทุนขาย (COGS) ในระยะเวลาที่ต้องการคำนวณ ซึ่งต้นทุนขายเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการผลิตสินค้ารวมทั้งค่าวัสดุและค่าแรง
ตัวอย่างเช่น ช่วงเวลาที่กำหนด คือ รอบระยะเวลาบัญชีเป็นปีปฏิทินเต็ม (365 วัน) สินค้าคงเหลือเฉลี่ยคือ 100,000 บาท และ COGS ในช่วง 365 วันที่ผ่านมาคือ 1,000,000 บาท
จะได้ค่า DOH = (100,000 / 1,000,000) x 365 = ~ 36 วัน หมายความว่า ธุรกิจต้องใช้เวลา 36 วันในการขายสินค้าที่มีอยู่

ทำไม Inventory Days on Hand จึงมีความสำคัญกับการบริหารคลังสินค้าธุรกิจ e-Commerce
DOH อาจมีค่าผันผวนได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา เช่น หากตุนสินค้าไว้สำหรับเทศกาลวันหยุดหรือแคมเปญใหญ่ๆ ค่า DOH ก็จะเกินจริง แต่อย่างไรก็ตาม กฎทั่วไปก็คือ ยิ่งค่า DOH เหลือน้อยลงเท่าไหร่ กระแสเงินสดก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน
ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคงคลัง
- การคำนวณ DOH ช่วยธุรกิจในการตัดสินใจสต็อกสินค้าเพิ่ม โดยเฉพาะในช่วงแคมเปญหรือช่วงเทศกาลที่ธุรกิจขายสินค้าได้มากกว่าช่วงอื่นๆ หากมีการคำนวณ DOH จะช่วยให้คาดการณ์ได้แม่นยำมากขึ้นว่าควรจะมีสต็อกสินค้าจำนวนเท่าไหร่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- ค่า DOH ต่ำ จะทำให้ต้นทุนการบริหารคลังสินค้า ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลังและต้นทุนการขนส่งลดลง ไม่เปลืองพื้นที่ในการเก็บสินค้า ลดความเสี่ยงของสินค้าหมดอายุหรือสินค้าที่ไม่สามารถขายได้อีกต่อไปเนื่องจากขาดความต้องการในตลาด ส่งผลให้ธุรกิจสร้างรายได้และกำไรได้เร็วขึ้น
- มีเงินทุนหมุนเวียนกลับมาลงทุนในธุรกิจมากขึ้น เพราะสินค้าคงคลังเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจ หากบริหารไม่ดีอาจทำให้เงินลงทุนหยุดชะงักได้
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว
ปกติแล้วลูกค้ามักคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าตรงตามที่สั่งซื้อภายในระยะเวลาที่ยอมรับได้ การจัดการสินค้าคงคลังที่ดีจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าผิดหวังจากการค้างส่งหรือจัดส่งล่าช้าจากการที่สินค้าหมดสต็อก นอกจากนี้ การบริหารคลังสินค้าที่ดียังเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการหยิบและแพ็คสินค้า ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดในคำสั่งซื้อและทำให้มีการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

วิธีหลีกเลี่ยงสินค้าคงคลังที่ถูกขายออกไปช้า (Slow Moving Stock)
อาจมีหลายเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าให้ได้มากที่สุด เช่น ส่วนลดจาก Supplier หรือการยิ่งซื้อเยอะยิ่งราคาถูก แต่หากลองเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับต้นทุนในการจัดเก็บสินค้า หรือความเสี่ยงของสินค้าล้าสมัยและสินค้าที่หมดสต็อกให้มากขึ้น ควบคู่กับข้อเสนอส่วนลดต่างๆ จะช่วยสร้างสมดุลในการตัดสินใจได้โดยไม่กระทบต่อ Inventory Turnover Ratio หรืออัตราส่วนการหมุนเวียนสินค้า
กลยุทธ์ในการลดค่า DOH เพื่อให้สินค้าคงคลังเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าโดยนำสินค้า Slow Moving ที่สามารถใช้เป็นของสมนาคุณหรือ Bundle Deals มาขายคู่กับสินค้าที่ขายดี มี DOH ต่ำ
- เป็นพาร์ทเนอร์กับ ผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการซื้อขายของธุรกิจ เพื่อคาดการณ์ความต้องการรวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาและปริมาณการสั่งซื้อ
- เพิ่มความเร็วในการจัดส่งและกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า แบบสำรวจเปิดเผยว่า 75% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อจากแบรนด์ที่ให้บริการจัดส่งฟรีภายใน 2 วัน นั่นหมายความว่าการปรับปรุงระดับการบริการจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจในท้ายที่สุด
SCG Logistics ผู้ให้บริการด้าน Fulfillment ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีระบบและเทคโนโลยีการจัดการที่ทันสมัยเพื่อใช้ในกระบวนการ Fulfillment กับบริการเก็บ-แพ็ค-ส่งอย่างมืออาชีพ
อ่านเพิ่มเติม : บริการ FULFILLMENT เพิ่มยอดขายออนไลน์แบบก้าวกระโดด
บริการด้านบริหารคลังสินค้าและ Fulfillment จาก SCG Logistics จะช่วยหลีกเลี่ยง Slow Moving Stock ได้อย่างไรบ้าง
- บริการคลังสินค้าออนไลน์ที่สามารถตรวจสอบสถานะและการทำงานได้ง่าย
คลังสินค้าของ SCG Logistics เป็น Warehouse สำหรับ E-commerce โดยเฉพาะ การจัดเก็บสินค้าจะแบ่งตาม ลักษณะ ประเภท รุ่น สี ไซส์ LOT และวันหมดอายุโดยละเอียด บริหารจัดการบนระบบ WMS ระบบคลังสินค้าออนไลน์ที่มีความแม่นยำ และอัปโหลดแบบ Real-time ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานผ่านมือถือและเว็บไซต์ได้ สามารถเช็กสต็อกทุกเมื่อ รวมไปถึงสามารถวางแผนบริหารจัดการสินค้าคงเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ - บริการ Fulfillment ของ SCG Logistics มีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด
ทั้งในส่วนของข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้า และข้อมูลคำสั่งซื้อ เพื่อให้ร้านค้าสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผน การจัดการปริมาณสินค้า วางแผนการขาย การตลาด และการจัดโปรโมชั่นได้อย่างง่ายดาย ไม่ทำให้ร้านค้าเสียโอกาสในการขาย รวมทั้งให้บริการแพ็คสินค้า จัดส่งของ พร้อมกับบริการอื่นๆ ครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ มั่นใจได้ในบริการแพ็คของ-ส่งของ ว่าจะไปถึงมือลูกค้าปลายทางได้อย่างรวดเร็ว - หมดห่วงเรื่องการขนส่ง
หลังจากบริการแพ็คสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีการติดต่อกับผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำหลากหลายบริษัท เช่น SCG Express เพื่อให้เหมาะกับทุกประเภทธุรกิจของร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งในประเทศ ต่างประเทศ ทั้งแบบ B2B และ B2C รวมไปถึงการส่งสินค้าด่วนแบบ on-demand ซึ่งร้านค้าสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้จากเลข Tracking ทุกช่องทาง
คลิก เพื่อสอบถามรายละเอียดบริการ
หรือติดต่อเจ้าหน้าได้ที่เบอร์ 02-586-6777 ช่องทางไลน์ LINE : @SCGL

บทสรุป Inventory Days on Hand มีความสำคัญสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจ e-Commerce
สินค้าคงคลังเป็นส่วนที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก การมีข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำจะช่วยให้การพิจารณาระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสมและป้องกันไม่ให้สินค้าหมดสต็อก ดังนั้น ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ควรให้ความสำคัญกับ Inventory Days on Hand โดยเฉพาะธุรกิจ e-Commerce จะเห็นได้ว่าเมื่อธุรกิจเติบโต มักตามมาด้วยต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลังที่สูงและเริ่มยากขึ้น ในกรณีนี้ธุรกิจสามารถใช้บริการด้านคลังสินค้าและ Fulfillment จากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ จากประสบการณ์ด้าน Logistics ที่ยาวนานมาช่วยเหลือในส่วนนี้ เพราะหากไม่มีการคำนวณ ไม่วางแผนโดยใช้กลยุทธ์อาจทำให้เงินทุนหมุนเวียนหยุดชะงักจนขาดทุนได้
อ้างอิงบทความจาก : SCGLogistics, easyship.com, ware2go.co, corporatefinanceinstitute.com